VACHARANONT SINVARAVATN

SIGN OF THE TIMES

​​​

Sign of the Times is a sandstone slab sculpture that reflects on the relationship between the prang of Wat Phra Si Rattan Mahathat and the star Spica (Chitra). Sinvaravatn views sacred sites as cosmic mediators, believing that the alignment between religious structures and celestial bodies expresses how past communities inscribed their identities onto the land. One side of the sculpture shows rice fields at harvest, capturing the moment when Spica dips toward the western horizon at dawn, marking the start of the harvest season. The reverse side bears a poem that invokes ancestral memories of star-watching. Installed along the prang’s western cloister, the work bridges ancient celestial observations with the gaze of present-day visitors, renewing the dialogue between the stars once studied by ancestors and those who behold them today.

​

​

about SPACE

​

Wat Phra Si Rattana Mahathat is an ancient and important temple of Suphanburi Province, whose exact period of construction cannot yet be definitively determined. The temple is situated in Rua Yai Subdistrict, to the west of the Suphanburi River, with its principal stupa being a "Prang" in early Ayutthaya style. Its location at the central point of the old city encircled by the ancient moat line reflects the temple’s significance in accordance with the cosmological mandala concept, and also mirrors the importance and prosperity of Suphanburi itself.​ In 1913-1914, during a time when the temple was still abandoned, there was an illicit excavation around the base of the stupa, which led to the discovery of lan thong inscriptions mentioning the arrival of two kings. The elder king came to construct a stupa enshrining the Buddha's relics, while the younger king restored it, making it even taller and grander than before.

​

Furthermore, the principal Buddha image and the old ordination hall face west and are located behind the stupa, which contrasts with the typical layout of temples today. Excavations also unearthed sandstone Buddha images in the U Thong style, Tri-kaya votive tablets influenced by Khmer art, Phra Kamphaeng Sok Buddha image in leela pusture in Sukhothai style, as well as Chinese ceramics from various dynasties. Altogether, these findings reflect the temple's transitions across historical periods, artistic influences, systems of belief, and the cycles of abandonment and reoccupation of the temple and surrounding town in many times throughout its history.

​

"Sign of the Times" participated in the exhibition “Asaññakāya” at Wat Phra Si Rattana Mahathat, Suphan Buri (2025)

​​

​

​

สัญญาณแห่งกาลเวลา

​​

ผลงานสัญญาณแห่งกาลเวลา คือประติมากรรมหินทรายรูปทรงคล้ายแผ่นจารึกนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี และดาวรวงข้าว (Spica-จิตรา) โดยวัชรนนท์สนใจพื้นที่ศาสนสถานในฐานะสื่อกลางของจักรวาลที่เชื่อมโยงเข้ากับวิถีชีวิตของมนุษย์ และเขาเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างทิศทางของศาสนสถานกับดวงดาวนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการจัดวางตัวตนของผู้คนในอดีตลงบนแผ่นดินที่เขาอาศัยอยู่ ด้านหนึ่งของประติมากรรม แสดงภาพถ่ายทุ่งนาในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว เล่าถึงวันที่ดาวรวงข้าวจรดขอบฟ้าทิศตะวันตก ในเวลาที่แสงแรกของดวงอาทิตย์ปรากฏอันเป็นสัญญาณการมาถึงของฤดูเก็บเกี่ยว อีกด้านหนึ่งเขาได้สลักบทกวีที่แสดงออกถึงความทรงจำเก่าแก่ของการเฝ้ามองดูดวงดาวของบรรพชน ผลงานชิ้นนี้ติดตั้งบริเวณระเบียงคตด้านทิศตะวันตกของพระปรางค์ เพื่อเชื่อมโยงบทสนทนาระหว่างดวงดาวที่บรรพชนเคยเฝ้ามองในอดีตเข้ากับสายตาของผู้มาเยือนในปัจจุบัน​​​

​

เกี่ยวกับพื้นที่

​

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดโบราณอันสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ยังไม่สามารถระบุยุคสมัยในการสร้างได้อย่างแน่ชัด ตัววัดตั้งอยู่ที่ตำบลรั้วใหญ่ ในทางทิศตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี โดยมีพระปรางค์ในศิลปะอยุทธยาตอนต้นเป็นเจดีย์ประธาน และมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณจุดศูนย์กลางของแนวคูเมือง สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของวัดในฐานะศูนย์กลางตามคติภูมิจักรวาล อีกทั้งยังเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองสุพรรณบุรีในอดีต​ โดยในช่วงปีพ.ศ. 2456-2457 ช่วงที่ยังคงเป็นวัดร้าง ยังได้มีการลักลอบขุดกรุพระบริเวณรอบพระปรางค์ฯ ทำให้ค้นพบจารึกลานทองที่ระบุถึงการมาของกษัตริย์สองพระองค์ โดยกษัตริย์ผู้พ่อได้มาสร้างสถูปซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ และกษัตริย์ฝ่ายลูกได้มาบูรณะให้สูงใหญ่ยิ่งกว่าเดิม

​

นอกจากนี้พระประธานและอุโบสถเก่า ยังหันหน้าไปยังทิศตะวันตกและอยู่ด้านหลังองค์พระปรางค์ ซึ่งแตกต่างจากการจัดวางผังวัดในปัจจุบัน และยังมีการขุดค้นพบพระหินทรายในศิลปะแบบอู่ทอง พระพิมพ์ตรีกายในอิทธิพลศิลปะเขมร พระกำแพงศอกพระปางลีลาแบบศิลปะสุโขทัย ตลอดจนเครื่องถ้วยจีนจากราชวงศ์ต่างๆ ทั้งหมดนั้นสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านทั้งในทางยุคสมัย อิทธิพลทางศิลปะ คติความเชื่อ ตลอดจนประวัติศาสตร์ที่ทั้งวัดและชุมชนมีการทิ้งร้างและการเข้ามาในพื้นใหม่อยู่บ่อยครั้ง

​

ผลงานชุด "สัญญาณแห่งกาลเวลา" ได้ร่วมแสดงในนิทรรศการ "อสญญกาย" จัดแสดงที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี (2025)